ต้มกาแฟด้วยหม้อต้มอิตาลี ให้ครีม่าล้น ๆ ทำแบบนี้

 



ต้มกาแฟด้วยหม้อต้มอิตาลี ให้ครีม่าล้น ๆ ทำแบบนี้

วันนี้อยากจะมาเล่าเรื่องการต้มกาแฟด้วย Moka Pot.. ใครเป็นคอกาแฟสโลว์บาร์ ล้อมวงเข้ามาเลยจ้ะ

 ใครที่ไม่ใช่คอกาแฟแต่กำลังว่าง ๆ และอยากหาอะไรอ่านเล่นฆ่าเวลาก็เชิญทัศนาตามอัธยาศัย

 บอกเลยว่า เรื่องต้มกาแฟ.. พี่เป็นมือวางอันดับหนึ่งในบ้าน.. ก็ทั้งบ้านต้มเป็นอยู่คนเดียวนี่แหละค่ะ

 

...แต่กว่าจะต้มออกมาได้แบบนี้ ก็ฝึกวิทยายุทธด้วยตัวเองมาหลายปีดีดัก

 

 


 

 จุดเริ่มต้น มันก็ตั้งแต่ตอนที่จะเปิดร้านกาแฟหม้อต้มเมื่อหลายปีก่อน

แม้ว่าจะเคยหุ้นกะเพื่อนเปิดร้านกาแฟสปีดบาร์ในห้างใหญ่แต่ไปไม่รอด ต้องปิดตัวไปแล้วคราวหนึ่ง

 

พอมาเจอทำเลดี ๆ สถานที่ก็ถูกใจ เจ็บแค่ครั้งเดียวมันยังไม่พอค่ะ พี่เลยต้องขอลองอีกที..

 

แต่ครั้งนี้ พี่อยากทำเป็นร้านกาแฟแนว ๆ อินดี้ ช่วงนั้นกาแฟแบบสโลว์บาร์ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก

 มีเปิดกันบ้างประปราย แต่ก็ขายสู้ร้านแบบสปีดบาร์ ที่ใช้เครื่องชง Espresso Machine ไม่ได้

คนสอนที่รู้จริงเรื่องกาแฟหม้อต้มก็ยังไม่มีออกมาสอนเหมือนในปัจจุบัน


 

เราเองก็ถนัดสายหวานจำพวกขนมมากกว่า พอต้องมาทางนี้ ก็ต้องไปต่อให้ได้ค่ะ

 

พี่จึงเริ่มนับหนึ่งจากคู่มือการใช้ Moka Pot ในกล่องนั่นแหละค่ะ ถ้าไม่เชื่อผู้ผลิตแล้วจะเชื่อใคร

 

ดูคลิปที่ฝรั่งใน YouTube เค้าแชร์มาบ้าง (คลิปเกี่ยวกับ Moka Pot มีน้อยมากในเวลานั้น)

 

แล้วพี่ก็ทดลองต้มเองค่ะ เรา learning by doing เนอะ ต้มไป.. ชิมไป.. ทิ้งไป..

 

(แน่ล่ะ ใครจะกินกาแฟได้เป็นลิตร ๆ ล่ะคะ ที่รัก) ต้มไป..ชิมไป แล้วก็ทิ้งไป ทำวนไปแบบนั้นนน

 

..โปรดอย่าถามว่าหมดเปลืองเมล็ดกาแฟไปกี่มากน้อย เพราะหมดไปมากจริง ๆ มิใช่น้อยยยยย

 


 

ตอนนั้นคือจับชั่งน้ำหนักมันทุกอย่างตามประสาเด็กจบสายวิทย์ ประหนึ่งว่ากำลังทำการทดลองอันยิ่งใหญ่ ชั่งกาแฟ ชั่งน้ำ ชั่งน้ำกาแฟที่ต้มได้ออกมา เปรียบเทียบการต้มแต่ละครั้งโดยเปลี่ยนตัวแปรหรือวิธีการของหม้อแต่ละขนาด เช่น ระดับความละเอียดของกาแฟที่บด ปริมาณกาแฟที่ใส่ การกดหรือไม่กดกาแฟ กดหนัก กดเบา  การใส่หรือไม่ใส่แผ่นกระดาษกรอง อุณหภูมิน้ำที่ใช้ต้ม เปรียบเทียบรสของกาแฟจากหม้อแต่ละขนาดด้วยแล้วก็บันทึกไว้

 

น่าเสียดายที่เคยบันทึกไว้นั้นหายไปเสียแล้ว (คิดเอาเองว่าคงมีคนอยากถามเลยตอบทิ้งไว้ก่อน)

 

และร้านก็ปิดไปนานแล้วค่ะ (คิดเอาเองเช่นเคยว่าต้องมีคนอยากถาม และคำตอบนี้สะเทือนใจพี่อยู่เหมือนกัน)

 

 แต่.. แต่สิ่งที่ไม่หายไปไหนคือฝีมือต้มกาแฟที่แก่กล้าขึ้นตามวัยพี่เลยค่ะ แหม..โม้มายาวมากนะ วันนี้ ที่อ่านกันจนจบนี่คือว่างมากสินะคะ  

แต่ที่โม้มาทั้งหมดนี่ แค่อยากจะบอกว่าใครอยากต้มกาแฟให้ได้แบบพี่ โดยไม่ต้องมานั่งทำการทดลอง ต้มไป ชิมไป ทิ้งไป.. ให้เปลืองกาแฟ ก็เชิญมาดูคลิปที่นี่ได้เลยค่ะ

 


ในคลิปใช้ Moka Pot : Bialetti Moka Express 2 Cup  และเตาไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีขายทั่วไปค่ะ 


สรุปหลักการสำคัญ

1. เมล็ดกาแฟคั่วมาไม่นานเกินกว่า 1 เดือน

2. บดเมล็ดกาแฟใหม่ทุกครั้ง ไม่บดทิ้งไว้ บดละเอียดเกือบเท่าใช้ชงกับเครื่อง Espresso Machine

3. เติมน้ำลงในหม้อต้มให้ได้ระดับ ไม่สูงเกินวาวล์แรงดัน

4. ใส่กาแฟบดลงในกรวยใส่กาแฟจนเต็มพูน ๆ ใช้ช้อนกด ๆ เกลี่ย ๆ ไม่ให้มีช่องว่าง สุดท้ายให้กดกาแฟพอแน่น ไม่ออกแรงกดเท่ากับการชงเครื่อง

5. ใช้เตาไฟฟ้า เปิดไฟแรงสุด พอน้ำกาแฟเริ่มไหลออกจนท่วมเต็มพื้นหม้อ ให้ปิดเตาทันที ทิ้งหม้อต้มไว้บนเตาจนน้ำกาแฟได้ครึ่งกา แล้วค่อยยกลงจากเตา


** ถ้ามีคำถาม ทิ้งคำถามไว้ได้เลยนะคะ ว่าง ๆ แล้วจะมาตอบให้ค่า  วันนี้ลาไปก่อน แล้วคราวหน้าจะใช้หม้อ Bialetti Brikka มาต้มกาแฟให้ชมกันค่า





ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม